ตีตั๋ว...พาทัวร์ 12 โรงภาพยนตร์ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก (Esplanade Cineplex Ratchadapisek) เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2006 เป็นแบรนด์ลำดับที่ 4 ในเครือ Major Group และใช้ชื่อแบรนด์ตามศูนย์การค้า จดทะเบียนจัดตั้งโดย บมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ร่วมลงทุนกับ สยามฟิวเจอร์ฯ (SF) เปิดตัวศูนย์การค้า รวมทั้งโรงภาพยนตร์ให้เป็นแหล่งบันเทิงศิลป์แห่งใหม่ในย่านรัชดาฯ ด้วยดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวภายใต้คอนเซ็ปต์ Inno-Art Cinematic “นวัตกรรมศิลป์ สู่โรงภาพยนตร์”
ในช่วงยุคทองของ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ ถือว่าเป็นสาขา Flagship ระดับพรีเมียมอยู่ใน Tier รองจาก พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เลยก็ว่าได้ ด้วยโลเคชั่นทำเล CBD ที่ติดกับเส้นทางรถไฟฟ้า แต่ก็ยังต้องคอยปรับตัว ทำการตลาด เมื่อมีห้างใหม่ๆ เปิดในย่านนั้นเพิ่มขึ้น จนมาถึงช่วงโควิด ทำให้บรรยากาศร้านค้าในศูนย์ฯ รวมถึงโรงภาพยนตร์ ดูจะไม่ค่อยวุ่นวายเหมือนก่อนมากนัก แต่เห็นเงียบๆ แบบนี้ ก็ยังทำรายได้อยู่ใน 20 อันดับสาขาทำเงิน และหวังว่าอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหลังจาก CPN ได้มาเป็นเจ้าของศูนย์ฯ ในปัจจุบัน
บางคนอาจจะยังสงสัยว่า สาขา รัชดาฯ กับ งามวงศ์วาน-แคราย เหมือน หรือต่างกันยังไง?
เอสพละนาด รัชดาฯ เป็นศูนย์การค้าแบบปิด (Neighborhood Mall) โดยมีผู้เช่าพื้นที่หลัก และร้านค้าปลีกต่างๆ บริหารงานโดย CPN (จากเดิม SF) ในส่วนของโรงภาพยนตร์ เป็นสาขาที่บริหารงานโดยกลุ่ม เมเจอร์ฯ
เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย เป็นศูนย์บันเทิงแบบ Standalone Complex (เหมือน เมเจอร์ฯ รัชโยธิน) มีพื้นที่หลักเป็นธุรกิจโรงภาพยนตร์ โบว์ลิ่ง ลานไอซ์สเก็ต และจัดสรรพื้นที่ส่วนที่เหลือให้เช่าสำหรับร้านค้า บริหารงานโดยกลุ่ม เมเจอร์ฯ ด้วยกันเอง
เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาฯ เป็นโรงภาพยนตร์ในเครือ ที่เริ่มจำหน่ายเครื่องดื่มของกลุ่มแบรนด์ โคคา-โคลา สาขาแรก ภายใต้ บมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป
พื้นที่โรงภาพยนตร์ ตั้งอยู่บนชั้น 5 ของศูนย์การค้า เอสพละนาด รัชดาฯ ประกอบด้วย 12 โรงภาพยนตร์ รวม 2,457 ที่นั่ง
ชั้น 2 : Box Office จุดจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ และมีตู้ E-Ticket 10 ตู้ไว้ให้บริการ
ชั้น 3 : ทางขึ้นโรงภาพยนตร์ และจุดจำหน่ายป๊อปคอร์น
ชั้น 4 : Blu-O Rhythm & Bowl และโรงละครรัชดาลัย เธียเตอร์
ชั้น 5 : โรงภาพยนตร์ปกติ 10 โรง (รวม Dolby Atmos 1 โรง), VIP 2 โรง และจุดจำหน่ายป๊อปคอร์น
ด้วยคอนเซ็ปต์เดิม ความเป็น Art Cinematic มักจะมีหนังนอกกระแส และหนังศิลป์ หรือหนังเฉพาะกลุ่ม เข้าฉายให้ผู้ที่ชื่นชอบได้มีตัวเลือกชม แต่ยุคหลังๆ ก็เริ่มเลือนหายไป ทำให้ปัจจุบันโปรแกรมหนังที่เข้าฉายไม่ค่อยแตกต่างจากสาขาอื่นๆ แต่ก็ยังมีทั้งเสียง Soundtrack และพากย์ไทย ฉายด้วยระบบ Laser ทุกโรง มีพื้นที่รองรับการจัด Event กิจกรรมรอบพิเศษ พร้อมเลาจน์ในบรรยากาศแบบส่วนตัว
Cinema 1 โรง VIP ขนาด 40 ที่นั่ง (Galleria) จอภาพ Scope
Cinema 2 โรง VIP ขนาด 38 ที่นั่ง (Galleria) จอภาพ Scope
Cinema 3 โรงปกติ ขนาด 120 ที่นั่ง (Normal / Honeymoon) จอภาพ Scope
Cinema 4 โรงปกติ ขนาด 262 ที่นั่ง (Normal / Esplanade Chair / Opera Deco) จอภาพ Scope (เคยเปิดให้บริการรูปแบบโรงภาพยนตร์ "Dell Gaming Esports Cinema" ในปี 2018)
Cinema 5 โรงปกติ ขนาด 246 ที่นั่ง (Normal / Optimus) จอภาพ Scope
Cinema 6 โรงปกติ ขนาด 252 ที่นั่ง (Normal / Honeymoon) จอภาพ Scope
Cinema 7 โรงปกติ ขนาด 260 ที่นั่ง (Normal / Honeymoon) จอภาพ Scope
Cinema 8 โรงปกติ ขนาด 254 ที่นั่ง (Normal / Esplanade Chair / Opera Deco) จอภาพ Scope
(ยกเลิกระบบเสียง Dolby Atmos ตั้งแต่ Mar 2024)
Cinema 9 โรงปกติ ขนาด 260 ที่นั่ง (Normal / Honeymoon) จอภาพ Scope
Cinema 10 โรงปกติ ขนาด 221 ที่นั่ง (Normal / Honeymoon) จอภาพ Scope
Cinema 11 โรงปกติ ขนาด 260 ที่นั่ง (Normal / Honeymoon) จอภาพ Scope
Cinema 12 โรงปกติ ขนาด 244 ที่นั่ง (Normal / Honeymoon / Opera Deco) จอภาพ Scope
ห้องน้ำชั้น 5 พื้นที่โรงภาพยนตร์มีให้บริการ 3 จุด
ฝั่งโรง VIP ระหว่างโรง 1-2
ฝั่งโรงปกติ หน้าโรง 3 (ด้านหลัง Concession) และด้านข้างโรง 11
การเดินทางมาดูหนังที่ โรงภาพยนตร์ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาฯ ด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ (BL19) ทางออก 3 จะอยู่ใกล้ห้างมากที่สุด สำหรับรถส่วนตัว ใช้บริการโรงภาพยนตร์ หรือ Blu-O สแตมป์บัตรจอดรถได้ฟรี 4 ชม. ลูกค้าทั่วไปจอดฟรี 1 ชม.แรก ต่อไปคิดเป็น ชม.ละ 70 บาท
Comments